อำเภอสามเงา
เล่าสืบต่อกันว่า ในอดีตกาลครั้งกระโน้น พระนางจามเทวีได้เสด็จทางชลมารค ขึ้นมา ตามลำน้ำปิงจะไปครองเมืองหริภุญชัย (ลำพูน)พอถึงหน้าผาริมน้ำแห่งหนึ่งก็เกิดอัศจรรย์ปั่นป่วนอากาศวิปริต พายุฝนโหมกระหน่ำหนัก พระนางไม่สามารถที่จะเสด็จต่อไปได้ ต้องพาข้าราชบริพารขึ้นไปประทับหลบภาวะวิปริตของดินฟ้าอยู่ ณ ที่นั้นถึง 3 วัน 3 คืน สภาพดินฟ้าอากาศก็ยังไม่คลี่คลายลง พระนางจึงเสด็จขึ้นไปบนหน้าผาและทรงจุดธูปเทียนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าหากพระนางมีบุญญาบารมีที่จะได้ครองเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) จริงแล้ว ก็ขอให้อากาศวิปริตของดินฟ้าอากาศจึงหายไป อย่าได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางของพระนางต่อไปอีกเลย พอพระนางอธิษฐานเสร็จสิ้นดังนั้น พายุฝนก็หายไปดังปาฏิหาริย์ อากาศก็กลับแจ่มใสดังเดิม และด้วยยุญญาบารมีได้ปรากฏเงาพุทธรูปขึ้นที่หน้าผา 3 องค์ พระนางจามเทวีจึงออกเดินทางต่อไป และได้ครองเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) สมจริงดังคำอธิษฐาน หน้าผานี้ จึงเรียกว่า “ผาสามเงา” และบ้านสามเงาเขาสามเงานี้ ชาวบ้านเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า “เขาหน้าพระ” กลายมาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ราษฎรไปนมัสการเป็นประจำ ในกาลต่อมาผาสามเงา ปัจจุบันอยู่ในท้องที่ตำบลย่านรี ถ้าผ่านไปมาในลำน้ำปิงหรือผ่านถนนริมน้ำในช่วงนี้จะมองเห็นได้ถนัดชัดเจน
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2472 ทางราชการได้ตั้งกิ่งอำเภอขึ้นกับอำเภอบ้านตาก ณ ที่ตั้งอำเภอปัจจุบัน คือ ที่หมู่บ้านท่าปุย ตำบลสามเงา เรียกชื่อตอนแรกว่า “กิ่งอำเภอท่าปุย” ขึ้นกับอำเภอบ้านตาก จนถึง พ.ศ. 2481 ทางราชการได้เปลี่ยนชื่อเป็น “กิ่งอำเภอสามเงา” เพื่อให้ตรงกับปูชนียสถานผาสามเงา ต่อมา พ.ศ. 2501 จึงได้ประกาศยกฐานะเป็น “อำเภอสามเงา” จนถึงปัจจุบันนี้
อ้างอิง:www.tak.go.th